Canon ได้ทำการเปิดตัวCanonรุ่น EOS 70D ที่มาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ Dual Pixel CMOS AF

สวัสดีเพือนๆชาว New Update Electronics ทุกๆคนคร๊ะ หลังจากที่ไม่ได้มาอัพเดทอยู่หลายวัน วันนี้ นู๋วรรณ มีข่าวเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป(camera)มาอัพเดทให้ฟังกันคร๊ะ เพือนๆที่ชอบถ่ายภาพพลาดไม่ได้นะคร๊ะ ^^

ทางCanon ได้ทำการเปิดตัวCanonรุ่น EOS 70D ที่มาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ Dual Pixel CMOS AF

 

เครื่องซักผ้า(electric dryer)ในท้องตลาดบ้านเรา

   วันนี้ที่บ้านวรรณจะไปซื้อเครื่องซักผ้า(electric dryer)ใหม่ เลยมาค้นหาข้อมูลว่าเครื่องซักผ้าในท้องตลาดมีกี่ประเภท และประเภทไหนดีกว่า เลยได้ข้อมูลคร่าวๆมาประมาณนี้ เลยเอามาแบ่งปันเพือนๆกันนะคร๊ะ

เครื่องซักผ้า(electric dryer)

เครื่องซักผ้า(electric dryer) จริงๆแล้วก็เป็นเครื่องจักรที่ใช้สำหรับในการซักล้างเสื้อผ้า(ตรงตัวตามชื่อคร๊ะ ^^)

เครื่องซักผ้า(electric dryer)ได้มีการคิดค้นขึ้นมาใช้งานในศตวรรษที่ 16-17 โดยมีถังไม้ใหญ่บรรจุน้ำและผ้าซึ่งหมุนได้ด้วยแกนที่มีด้ามสำหรับหมุนได้ด้วยมือ ผ้าก็จะผ่านลูกกลิ้งซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับที่บดปลาหมึก จนถึงปี ค.ศ.1907 ชาวอเมริกันชื่อ อัลวา ฟิสเซอร์ก็ได้ทำการสร้างเครื่องซักผ้าทีทำงานด้วยระบบไฟฟ้าได้สำเร็จขึ้นมา


ส่วนประเภทของเครื่องซักผ้า(electric dryer)ที่ใช้ในครัวเรือนที่เห็นกันได้ในปัจจุบัน มี 3 ประเภท
1. เครื่องซักผ้าประเภทสองถังมีฝาด้านบน
รุ่นนี้จะเป็นเครื่องซักผ้าประเภทกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งตัวตั้งเวลาในการซักและปั่นจะเป็นกลไลลูกบิดแบบ electromechanical (กึ่งกลไกกึ่งไฟฟ้า) ถังหนึ่งจะไว้สำหรับซัก และอีกถังไว้สำหรับปั่นผ้าให้หมาด ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้แยกผ้าจากถังซักมาใส่ที่ถังปั่นหมาดเอง และอาจจำเป็นต้องทำหลายครั้งเนื่องจากถังปั่นหมาดมีขนาดเล็กกว่าทั้งซักมาก ส่วนในถังซักจะมีแกนหมุนตรงกลาง หมุนให้ผ้านั้นทำการเสียดสีกัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออก เครื่องซักผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกกว่าประเภทอื่น

2. เครื่องซักผ้าประเภทถังเดียวมีฝาข้างบน
เครื่องซักผ้าประเภทนี้โดยมากแล้วจะเป็นแบบทำงานอัตโนมัติ โดยที่ตัวตั้งค่าต่างๆในการซักจะเป็นแบบปุ่มกดหรือแบบลูกบิดที่หมุนได้อย่างเบามือมากกว่าของเครื่องซักผ้าที่เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ (แบบเดียวกับลูกบิดปรับระดับเสียงในเครื่องเสียงและวิทยุบางรุ่น) ควบคุมการทำงานด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่จะประกอบด้วย IC และ ไมโครโพรเซสเซอร์ เข้ามาแทนที่กลไลการตั้งเวลาแบบ electromechanical โดยจะสามารถตั้งระบบการซัก ระดับน้ำ เวลาในการซักและปั่นหมาดได้อย่างเสร็จสรรพ ตัวเครื่องเองจำเป็นต้องต่อกับท่อน้ำ เมื่อตั้งระบบการซักเรียบร้อย เครื่องจะทำการจ่ายน้ำเข้าเครื่อง และตัดน้ำเองอัตโนมัติทั้งหมด จากนั้นจะทำการซักและปั่นหมาดในถังเดียว ผู้ใช้งานสามารถตั้งระบบการซัก แล้วรอนำผ้าไปตากได้เลย โดยไม่ต้องมาคอยแยกผ้า ส่วนในถังซักจะมีแกนหมุนตรงกลางเช่นเดียวกับแบบสองถัง

3. เครื่องซักผ้าประเภทถังเดียวมีฝาด้านหน้า
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านี้สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับแบบถังเดียวมีฝาด้านบน แต่มีถังซักซ้อนกันสองถัง ถังซักชั้นในจะทำหน้าที่หมุนให้ผ้าเสียดสีกันและอุ้มน้ำไว้ในขณะที่หมุนผ้า ส่วนถังซักชั้นนอกจะทำหน้าที่อุ้มน้ำไว้ในขณะซัก และจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่มากกว่า เช่น เครื่องจะคำนวณประมาณน้ำโดยอัติโนมัติให้เหมาะสม กับปริมาณผ้าโดยเราเลือกเพียงแต่ชนิดของผ้า,สามารถซักน้ำร้อนได้(เครื่องซักผ้าประเภทถังเดี่ยวมีฝาด้านบนบางรุ่นก็สามารถซักน้ำร้อนได้เช่นกัน) และอื่นๆอีกมากมายตามรุ่นและยี่ห้อที่แตกต่างกันคร๊ะ
เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า บางรุ่นจะมีเครื่องทำน้ำร้อนในตัวเองสำหรับระบบการซักด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น


คราวนี้เพือนๆก็ได้รู้กันแล้วนะคร๊ะว่าเครื่องซักผ้าในท้องตลาดมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพือนๆคนไหนที่กำลังตัดสินใจอยู่ก็เลือกให้ตรงตามความต้องการและการใช้งานนะคร๊ะ ^^

Huawei ได้ทำการเปิดตัว MediaPad 7 Vogue แท็บเล็ตที่สามารถโทรออกได้ในราคาย่อมเยา

Huawei ทำการเปิดตัว MediaPad 7 Vogue แท็บเล็ตที่สามารถโทรออกได้ในราคาที่ย่อมเยา

 

   กระแสของ Tablet ที่สามารถโทรได้ยังคงมาแรงและได้รับความนิยม ล่าสุดทาง Huawei ได้ทำการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ในชื่อ MediaPad 7 Vogue ที่สามารถยกขึ้นโทรแบบแนบหู


โดย Spec ของ MediaPad 7 Vogue ก็ไม่ได้สูงมากนัก

• ซีพียู Huawei K3V2 ควอดคอร์ความถี่ 1.2GHz
• รัน Android 4.1 ครอบด้วย Emotion UI
• หน้าจอขนาด 7″ ความละเอียด 1024×600 พิกเซล
• หน่วยความจำภายใน 8GB แรม 1GB
• กล้องหลัง 3 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 0.3 เมกะพิกเซล

Huawei ได้ระบุว่าจะเริ่มจำหน่ายแท็บเล็ตรุ่นนี้ในประเทศจีนเดือนนี้ และจะทยอยออกจำหน่ายในประเทศอื่นทีหลัง ซึ่งราคาก็ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่น่าจะไม่แพง

Reviews Acer C7 Chromebook

Reviews Acer C7 Chromebook

 

เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา (2555) Googleได้เปิดตัว Chromebook (โน๊ตบุ๊คที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ของGoogle) ใหม่จำนวน2รุ่น ซึ่งก็คือ Samsung Chromebook ที่ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Exynos 5 บนสถาปัตยกรรม ARM และ Acer C7 Chromebook ที่ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Intel Celeron บนสถาปัตยกรรม x86 (และในภายหลังออกรุ่นปรับปรุงเพิ่มคือ Acer C710 Chromebook ที่ได้เพิ่มแรมและแบตเตอรี่) ซึ่งทั้งสองรุ่นมีราคาที่ไม่แพง คือ 249 เหรียญดอลลาร์US สำหรับ Samsung Chromebook (ขายดีมาก จนติดอันดับหนึ่งของ Amazon) และ 199 เหรียญดอลลาร์US สำหรับ Acer C7 Chromebook

 

ตัวเครื่อง

มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมเศษ มาด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบๆ มีโลโก้ Acer ตรงกลางฝาเครื่อง และโลโก้ Chrome ด้านบน

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการของเครื่องคือ Google Chrome OS ของGoogleไม่สามารถลงระบบปฏิบัติการตัวอื่นได้โดยตรง (มีบางแห่งประสบความสำเร็จลงระบบปฏิบัติการ Ubuntu Linux บนเครื่อง C7) และแน่นอนหนึ่งในคุณสมบัติคือการปรับปรุงให้อยู่ตลอด ดังนั้นแล้วหน้าตา ตลอดจนถึงคุณสมบัติต่างๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากเบราว์เซอร์ Chrome  ซึ่งในระยะหลังมีการเพิ่มความสามารถขึ้นมาอีกนิดหน่อย เช่น เปิดไฟล์ หรือ เล่นเพลง แต่โดยหลักการก็คือ มีเฉพาะเบราว์เซอร์ ทำให้ต้องถูกบังคับเสมือนต้องต่อInternetตลอดเวลาที่ใช้งาน ยังโชคดีว่าในระยะหลังมีโปรแกรม (แอพ) ที่สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้อยู่จำนวนหนึ่ง ทำให้สภาพของเครื่องไม่ถึงกับเป็น “เป็ดง่อย” เสียทีเดียว แต่จะเทียบกับระบบปฏิบัติการแบบเต็มๆ อย่าง Windows หรือ Linux ก็คงจะลำบากอยู่

ที่มา : cheap electronics monitors

Commart 2013 ชูธีมไอทีมหาสุนก เหล่าแท๊บเล็ตทั้งหลายเตรียมพาเหรดร่วมงาน

Commart 2013 ชูธีมไอทีมหาสุนก เหล่าแท๊บเล็ตทั้งหลายเตรียมพาเหรดร่วมงาน

     เตรียมพบกับ งานCommart Thailand 2013 ภายใต้แนวคิดไอทีมหาสนุก โดยมีTabletกว่า 60 แบรนด์ที่ตบเท้ากันเข้าร่วมงานเพื่อช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์คอไอทีทั้งหลาย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานใกล้เคียงกับครั้งก่อน

     นายปฐม อินทโรดม (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน)ผู้จัดการงานคอมมาร์ท)ได้กล่าวว่า บริษัท เออาร์ไอพี ได้ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศจัดงานแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าไอที คอมมาร์ท ไทยแลนด์ 2013 ด้วยเทรนด์ไอทีปีนี้จะเป็นแนวรูปแบบของ 4 จอ มหาสนุก ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และ ดิจิตอลทีวี ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกและเพิ่มสีสันให้กับไลฟ์สไตล์ของคอไอทีให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น

     เชื่อว่าผู้บริโภคจะได้สนุกและตระการตาไปกับสินค้าไอทีหลายแบรนด์ หลากหลายราคา เช่น แท็บเล็ตที่มีให้เลือกทุกระดับราคา ตั้งแต่ราคาพันกว่าบาทไปขึ้นไป กว่า 60 แบรนด์ ด้านของNotebook งานนี้จะเน้นความคึกคักของโปรโมชั้น ของแถมและราคาที่โดนใจ ส่วนทีวีดิจิตอล จะเปิดตัวพร้อมโชว์ที่งานคอมมาร์ทครั้งแรก ที่แรกในเมืองไทย



     ส่วนกิจกรรมการเสวนา Workshop ที่น่าสนใจ อาทิเช่น จาก e-commerce สู่ Social commerce ช่องทางในการทำธุรกิจที่สดใส ,การใช้ Social Media ให้เก่งไม่เหมือนใคร รวมทั้ง Application Talk ที่ร่วมพูดคุยกับบรรณาธิการนิตยสารในเครือเออาร์ไอพี นอกจากนี้แล้วยังมีมุม Buyer's Guide ที่จะคอยให้คำปรึกษาก่อนเลือกซื้อ โดยทีมบรรณาธิการจากนิตยสาร Commart พิเศษสุดๆกับ Commart Big Bonus สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าไอทีครบทุกๆ 3,000 บาท จะได้รับคูปองชิงโชคลุ้นรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ มูลค่า 4 แสนบาท และลงทะเบียนก่อนเข้างานลุ้นรับหุ่นยนต์ไดโนเสาร์มูลค่า 19,900 บาท รวมทั้งประกาศผลผู้ชนะเลิศในการออกแบบ Mascot Commart ซึ่งจะนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการโฆษณางานคอมมาร์ท


     โดยงานCommart Thailand 2013 จะจัดขึ้นในวันที่ 21-24 มีนาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10:00-20:00

เพือนๆคนใดที่มีแผนจะเตรียมซื้ออุปกรณ์ไอทีใหม่ก็ไปเลือกซื้อกันได้นะค่ะ ^^

เปิดตัวแอพแผนที่ ตระกูล Here ของโนเกีย ชุดใหญ่บน Windows Phone 8

     เปิดตัวแอพแผนที่ ตระกูล Here ของโนเกีย ชุดใหญ่บน Windows Phone 8

     หลังจากที่มีการรีแบรนด์แพลตฟอร์มแผนที่เป็น Here เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดทางโนเกียได้ประกาศแอพชุด Here บน Windows Phone 8แล้ว ซึ่งมือถือยี่ห้ออื่นๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ด้วย ซึ่งแอพในชุดประกอบด้วย

• Here Maps
• Here Drive (นำทางภายในประเทศ)
• Here Drive+ (นำทางได้ทั่วโลก)
• Here Transit
• Here City Lensการอัพเกรดความสามารถครั้งนี้จึงทำให้แอพในชุด Here ทำงานร่วมกันได้ เช่น เรียก Here Drive หรือ Here Transit ได้จากหน้าของแอพ Here Maps โดยตรง

     ส่วน Here Maps ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อ LiveSight ซึ่งเป็นระบบนำทางแบบ augmented reality ที่สามารถนำข้อมูลจากแผนที่มาแสดงบนภาพจริง (เหมือน City Lens)
ส่วนเจ้าแอพ Here ชุดนี้จะพรีโหลดมาพร้อมกับ Lumia 520/720 ส่วนมือถือ WP8 รุ่นอื่นๆ ก็ยังสามารถโหลด Here Maps, Drive, Transit ได้เป็นบางประเทศเท่านั้น (ที่ระบุชื่อไว้ยังไม่มีประเทศไทยค่ะ)

เปิดตัว NVIDIA Tegra 4 มาพร้อมกับ GPU 72 cores และ 4G LTE

เปิดตัว NVIDIA Tegra 4 มาพร้อมกับ GPU 72 cores และ 4G LTE 

   เตรียมเปิดงานสัปดาห์นี้ที่งาน CES 2013 CEO แห่ง NVIDIA Jen-Hsung Huang โดยได้เปิดเผยถึง โปรเซสเซอร์ตัวใหม่ของ NVIDIA นั่นคือ Tegra 4 และ หวังจะครองตลาดชิปบนอุปกรณ์พกพาในเจเนอเรชั่นหน้าด้วยการให้หน่วยประมวล ผลภาพกราฟิก 72 คอร์ (GPU core) ยกระดับความสามารถในการแสดงภาพกราฟิกที่เหนือกว่า Tegra 3 รุ่นเดิม 6 เท่าตัว CPU 4 คอร์ A15 และ ทำงานด้วย 4G LTE โดยในการทดสอบครั้งแรกนั้น ได้เอามาเปรียบเทียบกันระหว่างแท็บเล็ตนิรนามที่ใช้ Tegra 4 และ Google Nexus 10 โดยการทดสอบความเร็วในการเข้าหน้าเว็บไซต์ ในส่วนของ Tegra 4  ก็ได้ชนะไปอย่างขาดลอย

     ข้อมูลระบุว่า Tegra 4 จะสามารถรองรับเทคโนโลยี 4G หรือ LTE สามารถรองรับการบันทึกภาพและวิดีโอความละเอียดสูง HDR โดยสามารถประหยัดพลังงานได้ดีเยี่ยม จุดนี้ข้อมูลระบุว่า Tegra 4 ใช้พลังงานน้อยกว่า Tegra 3 ถึง 45% ในกรณีที่ใช้งานปกติ

     เจ้า Tegra 4 นี้ยังสามารถโหลดหน้าเว็บ 25 หน้า ด้วยความเร็วเพียง 27 วินาที ในขณะที่ Nexus 10 โหลดหน้าเว็บในจำนวนที่เท่ากัน แต่ใช้เวลาถึง 50 วินาที  หรือก็คือ ถ้าคุณโหลดหน้าเว็บด้วย NVDIA  Tegra 4  คุณจะใช้เวลาเพียง 1 วินาที ในขณะที่ คุณใช้งานด้วยแท็บเล็ทที่แรงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ (Nexus 10) คุณจะต้องใช้เวลาถึง 2 วินาทีเลยทีเดียว

     นอกจากชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ Nvidia ได้การันตีว่าทำงานได้เร็วและดีที่สุดในขณะนี้ ยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ยังได้ทำการเปิดตัวอุปกรณ์เล่นเกมพกพานามว่า ‘Project Shield‘ เป็น เครื่องต้นแบบที่ใช้ชิป Tegra 4 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเกมที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android จากร้าน Google Play และร้าน TegraZone ของ Nvidia เอง ที่สำคัญกว่านั้นยังสามารถรองรับสัญญาณสตรีมมิ่งเกมจากร้าน Windows PC STEAM ได้แบบไร้สาย จุดนี้จะทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีที่มีชิป Nvidia GeForce GTX GPU ติดตั้งอยู่สามารถเล่นจากสถานที่ใดก็ได้ของบ้าน ทั้งบนโซฟา หรือบนโถสุขภัณฑ์